วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562



สงครามโลกครั้งที่2 (ค.ศ. 1939-1945)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ lสงครามโลกครั้งที่2

ความเป็นมาของสงคราม
          สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็น “สงครามเบ็ดเสร็จ” (การทำสงครามที่รัฐที่เกี่ยวข้องมีการใช้ทรัพยากรและอาวุธที่ตนเองมีทุกอย่างโดยไม่มีข้อจำกัดเพื่อทำลายรัฐศัตรู) ครั้งสำคัญครั้งที่ 2 ของโลกถัดจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เกิดขึ้นราว 20 ปีก่อนหน้า (ค.ศ. 1914-1918) โดยสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นการรบระหว่างกลุ่มประเทศอักษะ (เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น) กับกลุ่มประเทศสัมพันธมิตรนำโดย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา สงครามครั้งนี้เริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อกองทัพเยอรมันบุกเข้าไปยึดครองประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1939 ทำให้ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศสและดินแดนอาณานิคมของอังกฤษอีก 4 แห่งคือ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ บริติชอินเดีย แอฟริกาใต้ ประกาศสงครามกับเยอรมนี ต่อมาในปี 1940 กองทัพเยอรมันรุกรานประเทศนอร์เวย์และประเทศเดนมาร์ก ก่อนที่จะโจมตีฝรั่งเศสผ่านทางประเทศเนเธอร์แลนด์เบลเยียม ลักเซมเบิร์ก ในปีเดียวกันนี้เอง อิตาลีได้ประกาศสงครามกับอังกฤษและฝรั่งเศส ถัดมาในปี 1941 เยอรมนียึดครองยูโกสลาเวียและเริ่มส่งทหารเข้าไปรุกรานสหภาพโซเวียต ขณะที่ญี่ปุ่นโจมตีอ่าวเพิร์ล (Pearl Harbour) บนเกาะฮาวายของสหรัฐอเมริกาแล้วประกาศสงครามกับสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ การโจมตีของกองทัพญี่ปุ่นครั้งนี้ส่งผลให้สหรัฐอเมริกาตัดสินใจเข้าสู่สงครามโลก
          ตลอดช่วง ค.ศ. 1939-1945 เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น พยายามขยายดินแดนของตนดังที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า กองทัพเยอรมนีได้เข้ายึดครองโปแลนด์ ยูโกสลาเวีย นอกจากนี้เยอรมนียังเข้ายึดครองออสเตรียและบางส่วนของเชโกสโลวะเกีย  ขณะที่อิตาลีบุกเข้าไปในอียิปต์และเอธิโอเปียเพื่อขยายอาณานิคมเข้าไปในทวีปแอฟริกา  ส่วนญี่ปุ่นเข้ายึดครองแมนจูเรีย บางส่วนของประเทศจีน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย
 สาเหตุของสงครามโลกครั้งที่ 2
สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดจากสาเหตุต่างๆที่สรุปได้ดังนี้
1) ความไม่เป็นธรรมที่เยอรมนีได้รับหลังเป็นฝ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่ 1
          หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลงโดยฝ่ายไตรภาคี (เยอรมนี ออสเตรีย-ฮังการี อิตาลี) เป็นฝ่ายแพ้ ได้มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพแวร์ซายส์ ในปี 1918  สนธิสัญญาดังกล่าวไม่เป็นธรรมกับฝ่ายผู้แพ้ โดยเยอรมนีถูกถือว่าเป็นผู้ก่อสงครามจึงต้องเป็นผู้ชดใช้หนี้สงครามถึง 269000  ล้านเหรียญสหรัฐ และถูกควบคุมทางการทหารอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เยอรมนีฟื้นตัวทางทหารได้  ขณะที่เยอรมีในช่วงทศวรรษ 1930 เป็นช่วงที่ อดอฟ ฮิตเลอร์  ผู้นำพรรคนาซีหรือพรรคแรงงานสังคมนิยมแห่งชาติเยอรมัน ได้ขึ้นเป็นผู้นำประเทศและดำเนินโยบายปลูกฝังเรื่องชาตินิยมและเผ่าพันธุ์นิยม  ต่อต้านสนธิสัญญาแวร์ซายส์  ต่อต้านลัทธมาร์กซ์  ต่อต้านชาวยิว  รวมทั้งต้องการผนวกดินแดนที่มีชนชาติเยอรมนีอาศัยอยู่ เช่น ออสเตรีย  เชโกสโลวะเกีย  โปแลนด์ เข้ากับเยอรมนี
2) ความขัดแย้งทางด้านอุดมการณ์
          การเกิดขึ้นของลัทธินาซีในเยอรมนีและลัทธิฟาสซิสม์ (Fascism) หรือลัทธิเผด็จการทหารที่ยึดแนวทางชาตินิยมของอิตาลีภายใต้การนำของ เบนิโต มุสโสลินี นำไปสู่ความขัดแย้งกับระบบเศรษฐกิจและการเมืองของบรรดารัฐต่างๆในยุโรป ขณะเดียวกันญี่ปุ่นในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1930 ก็เป็นไปในแนวทางเดียวกับเยอรมนีและอิตาลี คือ ทหารเข้ามามีอิทธิพลทางการเมืองและจัดตั้งรัฐบาลโดยดำเนินนโยบายชาตินิยม มุ่งเน้นการขยายอำนาจให้ญี่ปุ่นยิ่งใหญ่ทัดเทียมประเทศมหาอำนาจตะวันตก และหาดินแดนสำหรับเป็นแหล่งวัตถุดิบป้อนโรงงานอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น รวมทั้งใช้เป็นตลาดระบายสินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่น
3) ความล้มเหลวขององค์กรสันนิบาตชาติในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนานาชาติ
          หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติลงได้มีการตั้งองค์การ “สันนิบาตชาติ” เพื่อทำหน้าที่ระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศ สร้างสันติภาพ อย่างไรก็ตามองค์การสันนิบาตชาติไม่สามารถระงับข้อพิพาทกรณีที่เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ขยายอำนาจเข้าไปยึดครองดินแดนอื่นๆในช่วงทศวรรษ 1930 ถึงกลางทศวรรษ 1940 ส่งผลให้ข้อพิพาทดังกล่าวขยายตัวขึ้นมาเป็น “สงครามโลกครั้งที่ 2”

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ lสงครามโลกครั้งที่2

ผลของสงครามโลกครั้งที่ 2[4]
          ประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะเหนือประเทศฝ่ายอักษะอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ ค.ศ. 1942 เริ่มจากการที่กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรสามารถยกพลขึ้นบกที่เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี แล้วต่อมาได้คืบหน้าสู่คาบสมุทรอิตาลีทำให้อิตาลีต้องยอมแพ้ต่อฝ่ายสัมพันธมิตร  ในช่วงกลางปี 1944-ต้นปี 1945 กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรได้รุกคืบหน้าจากหาดนอร์มังดีในประเทศฝรั่งเศสขยับเข้าใกล้กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี มากขึ้นๆจนสามารถบุกเข้าสู่กรุงเบอร์ลินได้ ฮิตเลอร์ ผู้นำของเยอรมนีเห็นว่ากองทัพของเยอรมนีจะแพ้ต่อกองทัพของฝ่ายสัมพันธมิตร ดังนั้นฮิตเลอร์จึงตัดสินใจยิงตัวตาย หลังจากนั้นเยอรมนีได้ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข
          อย่างไรก็ตามสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงอย่างแท้จริงหลังจากกองทัพสหรัฐอเมริกาได้ทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมาในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 และที่เมืองนางาซากิ ในวันที่ 9 สิงหาคม ศกเดียวกัน นำไปสู่การประกาศยอมแพ้สงครามของญี่ปุ่น
          สงครามโลกครั้งที่ 2 สร้างความสูญเสียให้แก่ผู้คนจำนานมาก มีผู้เสียชีวิตจากสงครามครั้งนี้ประมาณ 15 ล้านคน เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
          นอกจากความสูญเสียของผู้คนและความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่กล่าวมาแล้ว ผลที่เกิดขึ้นจากสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้านหนึ่งคือ ในสงครามครั้งนี้มีการพัฒนาอาวุธใหม่ทางการทหาร เช่น จรวด เครื่องบินขับไล่ที่ใช้เครื่องยนต์เจ็ต ระเบิดปรมาณู รวมทั้งเกิดการกำหนดหลักนิยมทางทหาร (Military Doctrine) เพื่อการใช้อาวุธในสงครามเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แนวคิดและหลักการทางยุทธวิธีในการใช้กำลังรถถังและยานเกราะพร้อมกับการสนับสนุนทางอากาศ หลักการทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ หลักการยกพลขึ้นบก
          ขณะเดียวกันเทคโนโลยีบางอย่างที่คิดค้นขึ้นเพื่อใช้ในการรบ ต่อมาได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ เช่น พลังงานปรมาณู ที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ประโยชน์ทางการแพทย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ตอบคำถาม

สงครามโลกครั้งที่สอง Index => สงครามโลกครั้งที่สอง Quiz ...